ตัวอย่างการทบทวนหนังสือสารคดี: วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการทบทวน

ตัวอย่างการทบทวนหนังสือสารคดี: วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการทบทวน – บทวิจารณ์หนังสือสารคดีมีความหมายอย่างไร ในโอกาสนี้ เกี่ยวกับ ความรู้.co.id จะอภิปรายว่าบทวิจารณ์หนังสือสารคดีคืออะไรและตัวอย่างบางส่วน ลองดูการอภิปรายร่วมกันในบทความด้านล่างเพื่อทำความเข้าใจให้ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างการทบทวนหนังสือสารคดี: วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการทบทวน

---

บทวิจารณ์มาจากภาษาละติน recensio, recensere หรือ revidere ซึ่งแปลว่าทบทวนอีกครั้ง บทวิจารณ์คือการประเมินผลงาน (ผลงานที่ประเมินอาจอยู่ในรูปของหนังสือและงานศิลปะภาพยนตร์และละคร) การเขียนรีวิวประกอบด้วยจุดแข็ง จุดอ่อน และข้อมูลที่ได้จากหนังสือและถ่ายทอดสู่สาธารณชน

ตามพจนานุกรมของบิ๊กอินโดนีเซีย ผู้วิจารณ์คือการอภิปรายหรือวิจารณ์หนังสือ เนื้อหาในบทวิจารณ์หนังสือหรือนวนิยายเป็นการอภิปรายสั้นๆ และชัดเจน ซึ่งให้คำอธิบายและความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือหรือนวนิยาย

จริงๆ แล้วการเขียนรีวิวมีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือที่ได้รับการรีวิวแก่ชุมชนในวงกว้าง นอกจากนี้ การวิจารณ์หนังสือหรือนวนิยายยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อสื่อให้ผู้อ่านทราบเกี่ยวกับหนังสือที่ผู้เขียนทำขึ้น หนังสือหรือนิยายมีมูลค่าเพิ่มขึ้นหรือไม่.

มีองค์ประกอบที่ต้องพิจารณา 2 ประการ คือ องค์ประกอบภายในและองค์ประกอบภายนอก องค์ประกอบภายในบางอย่างที่ต้องพิจารณา ได้แก่ ลักษณะ ธีม โครงเรื่อง รูปแบบภาษา คำสั่ง และการตั้งค่า

ในขณะเดียวกัน สิ่งที่รวมอยู่ในองค์ประกอบภายนอกคือภูมิหลังของผู้เขียน มุมมองชีวิตของผู้เขียน และสถานการณ์ทางสังคม

ตรวจสอบวัตถุประสงค์

ต่อไปนี้เป็นเหตุผลบางประการในการวิจารณ์หนังสือ:

เชื้อเชิญให้ผู้อ่านอภิปรายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นในงานที่กำลังพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นวนิยาย หรือนิตยสาร
บทวิจารณ์จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจมากขึ้นและให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานที่จะวิจารณ์
คำนึงถึงความเป็นไปได้ของงานที่จะอ่านหรือเผยแพร่แก่ผู้อ่าน
ให้คำตอบและข้อมูลแก่ผู้อ่านเกี่ยวกับคำถามที่ผู้อ่านมักจะถามเกี่ยวกับงานที่ได้รับการตีพิมพ์

---

ตรวจสอบผลประโยชน์

ประโยชน์บางประการของการวิจารณ์หนังสือหรือนวนิยาย:

• เป็นเนื้อหาสำหรับการพิจารณาและเพื่อให้คำอธิบายทั่วไปแก่ผู้อ่านเกี่ยวกับงานและมีอิทธิพลต่องาน
• รับเงินหรือรางวัลรวมทั้งหนังสือที่จะได้รับการตรวจทานฟรีจากผู้จัดพิมพ์หนังสือ หากงานที่กำลังพิจารณาได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร
• เป็นวิธีการหรือสื่อในการประชาสัมพันธ์หนังสือ หนังสือที่กำลังตรวจสอบเป็นหนังสือใหม่ที่ไม่เคยได้รับการตรวจสอบโดยบุคคลอื่น บทวิจารณ์จึงทำหน้าที่เป็นสื่อส่งเสริมการขายหนังสือเล่มใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจของคนชอบอ่าน
• การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ยิ่งเราเขียนบ่อยเท่าไหร่เราก็ยิ่งได้รับการฝึกฝนให้สร้างสรรค์งานเขียนมากขึ้นเท่านั้น เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ที่เรามี

---

ตัวอย่างการทบทวนหนังสือที่ไม่ใช่นิยายเล่มแรก

---

ปรัชญาการศึกษาเบื้องต้น

หนังสือประจำตัว

ชื่อหนังสือ: ปรัชญาการศึกษาเบื้องต้น

ผู้แต่งหนังสือ: ดร. Uyoh Sadulloh, M.pd

สำนักพิมพ์หนังสือ: Alfabeta, CV

การพิมพ์: II

หนังสือหนา: 183 หน้า

ปีที่พิมพ์: 2547
สรุปปรัชญาการศึกษาเบื้องต้น

การศึกษาเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยมนุษย์เท่านั้น ซึ่งรวมถึงประสบการณ์และความคิดของมนุษย์ทั้งหมดเกี่ยวกับความหมายของการศึกษา

การศึกษาเป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวิตตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ เช่น กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ศาสนา กฎหมาย และอื่นๆ

นอกจากนี้มนุษย์เราก็สามารถศึกษาวิชาการได้ด้วย ไม่ว่าจะมาจากประสบการณ์จริงหรือโดยการไตร่ตรอง

แบบแรกเรียกว่าการปฏิบัติทางการศึกษา ส่วนแบบที่สองเรียกว่าทฤษฎีการศึกษา
ข้อดีของหนังสือ

หนังสือเล่มนี้สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของค่านิยมและวิธีที่มนุษย์ได้รับค่านิยมเหล่านี้ เพราะโดยพื้นฐานแล้วการศึกษาเป็นสิ่งที่แยกออกจากค่านิยมไม่ได้
ขาดหนังสือ

หนังสือเล่มนี้ยังขาดความเข้าใจสำหรับผู้อ่านโดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น ดังนั้น ข้อความที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อจึงไม่ได้สื่อถึงผู้อ่าน

---

ตัวอย่างการทบทวนหนังสือที่ไม่ใช่นิยายเล่มที่สอง

---

สาวสมาร์ท

หนังสือประจำตัว

ชื่อหนังสือ: สาวฉลาด.
ผู้แต่งหนังสือ: Ria Fariana
สำนักพิมพ์หนังสือ: Human Echo
เมืองที่เผยแพร่: จาการ์ตา
ปีที่พิมพ์: 2551.
หนังสือหนา: 200 หน้า.

เรื่องย่อ สมาร์ทเกิร์ล

หนังสือได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เด็กผู้หญิงสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นรอบตัวเราได้ หนังสือเล่มนี้ยังกล่าวถึงวิธีการเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและมีบุคลิกภาพที่ดีตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม

ผู้หญิงฉลาดตามหลักชารีอะห์คือคนที่สามารถใช้สติปัญญาของเธอเพื่อเพิ่มพูนศรัทธาของเธอ ผู้หญิงฉลาดไม่ได้วัดกันที่ความสูงของรายงาน

แต่เขาจะสามารถแก้ปัญหาในชีวิตของเขาด้วยเกณฑ์มาตรฐานที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบได้อย่างไร

โดยทั่วไป หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยพื้นฐานของการเป็นสตรีผู้เคร่งศาสนา เป็นผู้หญิงฉลาดตามหลักชะรีอะฮ์ได้อย่างไร? จำเป็นไหมที่ผู้หญิงจะต้องตุ้งติ้ง?

เราไม่ต้องการการออกเดทชื่อ ทั้งหมดนี้สรุปเป็นคำแนะนำง่ายๆ ที่นำไปใช้ได้จริงซึ่งสามารถช่วยคุณจัดการกับปัญหาได้

หนังสือเล่มนี้สามารถช่วยปลุกเร้าเด็กสาวให้ประพฤติตนตามศาสนบัญญัติของอิสลาม เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ คุณจะสามารถคิดได้ว่าสิ่งใดควรทำและสิ่งใดไม่ควรทำ

ในหนังสือเล่มนี้มีคำคมสอนใจมากมาย เช่น "อิสลามสนับสนุนให้ผู้หญิงฉลาดเพื่อไม่ให้ใครมาหลอกเอาง่ายๆ"

ข้อดีของหนังสือ

สามารถชี้นำหญิงสาวในปัจจุบันให้ก้าวไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องตามหลักศาสนบัญญัติของศาสนาอิสลาม ภาษาของหนังสือเล่มนี้เข้าใจง่ายมาก เนื่องจากเป็นภาษาที่ได้รับความนิยมและเป็นสแลง หน้าปกของหนังสือเล่มนี้ยังดึงดูดใจด้วยการ์ตูนสีสันสดใสน่ารักที่เพิ่มความพิเศษให้กับหนังสือเล่มนี้

ขาดหนังสือ

หนังสือเล่มนี้มียอดขายน้อยมากและภาพประกอบที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ยังเป็นแบบขาวดำ

---

ตัวอย่างการทบทวนหนังสือที่ไม่ใช่นิยายเล่มที่สาม

---

การเขียนนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง

หนังสือประจำตัว

ชื่อหนังสือ เปลี่ยนบุคลิกด้วยลายมือ

ผู้เขียน: วิมาลา ร็อดเจอร์ส

ผู้แปล: Arfan Achyar

สำนักพิมพ์: สำนักพิมพ์ Hikmah (PT. มิซาน มหาชนะ)

ชาวอินโดนีเซีย

พิมพ์: พิมพ์ครั้งที่สอง มกราคม 2552

ISBN: 978-979-114-233-5

ประเภท: สารคดี (กราฟวิทยาและกราฟิคบำบัด)

จำนวนหน้า: XI + 215 หน้า

ออกแบบปก: วาดกระดาษเส้นที่มีลายมือของใครบางคนบนนั้น

ลายมือของบุคคลไม่ได้เป็นเพียงชุดของคำที่เชื่อมโยงเป็นวิธีการสื่อสาร วิธีที่เราเขียนกลายเป็นตัวบ่งชี้ว่าเรากำลังรู้สึกและประสบกับอะไร ลายมือยังสามารถบอกถึงบุคลิกภาพของบุคคลได้อีกด้วย เมื่อเรามีความสุข ป่วยหนัก หรือเศร้า ลายมือจะเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ ข้อเท็จจริงนี้อ้างถึงหลักฐานใหม่โดยไม่รู้ตัวว่าบุคลิกภาพของบุคคลนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ผ่านลายมือของเขา หากเราจงใจเปลี่ยนการเขียนก็เหมือนกับการสำรวจตัวละครที่ซ่อนอยู่ภายใน

นี่คือสิ่งที่ วิมาลา ร็อดเจอร์ส ฝึกฝนมานานหลายปี เป็นครู ผู้เชี่ยวชาญด้านลายมือ นักสร้างแรงบันดาลใจ ผู้เขียนหนังสือขายดี Your Handwriting Can Change Your Life (2000) และ The Vimala System: Character Building Through Simplified Handwriting (2004) และผู้อำนวยการ The Institute of Integral Handwriting Studies ในแซคราเมนโต ชาวแคลิฟอร์เนีย งานเขียนของเขาเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก และเขาเป็นผู้ก่อตั้งระบบอักษรวิมาลา

หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละบทมีจุดประสงค์ต่างกัน ส่วนที่ 1 หัวข้อ บทนำการวิเคราะห์ลายมือ ซึ่งประกอบด้วย 3 บท บทแรกจะอธิบายว่าลายมือคืออะไร คำอธิบายโดยย่อของ Graphology และ Graphotherapy ระบบการเขียน และอักษรวิมาลาแสดงอยู่ในบทนี้ ตามวิมาลาระบบการเขียนเป็นระบบการเขียนที่ใช้ลายมือไม่เพียง เป็นวิธีการสื่อสาร แต่ยังเป็นเครื่องมือสร้างตัวอักษร เพราะตัวอักษรแต่ละตัวมีความหมาย แน่ใจ. บทที่ 2 อธิบายคำตอบสำหรับคำถามที่มักถามบ่อยเกี่ยวกับกราไฟต์เทอราพี และอธิบายได้ดีว่ากราไฟเทอราพีคืออะไร ในขณะเดียวกัน บทที่ 3 เชิญชวนให้ผู้อ่านทำแบบทดสอบทำนายลายมือที่แสดงบุคลิกภาพ อันไหนต้องแก้ไขและกำหนดว่าอักษรวิมาลาอะไรควรเรียนและเอาใจใส่ มากกว่า.

ในส่วนที่ 2 จะมีการอธิบายการแบ่งกลุ่มตัวอักษรและความหมายของตัวอักษรแต่ละตัวอย่างละเอียด พวกเขายังบอกวิธีการเขียนตัวอักษรวิมาลาอย่างถูกต้อง เพราะแต่ละตัวอักษรกล่าวกันว่าสามารถเปลี่ยนบุคลิกภาพของบุคคลให้ดีขึ้นได้ หนังสือเล่มนี้ยังรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวอักษรแต่ละตัวในอักษรวิมาลาซึ่งมีที่มาที่เข้มข้นและน่าทึ่ง ส่วนสุดท้ายที่มีชื่อว่า Making Changes เชื้อเชิญให้ผู้อ่านเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงลายมือและทำความคุ้นเคยกับวิธีการเขียนแบบใหม่ วิมาลายังมีเคล็ดลับที่จะทำให้ผู้อ่านสามารถฝึกเปลี่ยนลายมือได้ง่ายขึ้นและได้ผลลัพธ์ตามที่ผู้อ่านแต่ละคนต้องการ

หนังสือเล่มนี้ยังมีอภิธานศัพท์ที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาคำศัพท์ยากได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือหลายเล่มที่เราสามารถใช้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนด้วยลายมือ หนังสือเล่มนี้ยังน่าสนใจมากเพราะอธิบายแต่ละส่วนอย่างละเอียดและสื่อสารได้ นอกจากนี้ หนังสือเล่มนี้ยังมีตัวอย่างที่หลากหลายจากประสบการณ์ที่น่าสนใจของผู้เขียน วัสดุที่นำเสนอนั้นง่ายต่อการนำไปใช้ หนังสือเล่มนี้ดูเหมือนจะไม่ 'ถูก' เพราะทุกหน้าของหนังสือเล่มนี้ใช้กระดาษสีขาวและปกมีการออกแบบที่สวยงามน่าสนใจ

น่าเสียดายที่หนังสือเล่มนี้ยังมีจุดอ่อนอยู่หลายประการ ทั้งภาษาที่จัดโครงสร้างได้ไม่ดี และบางประโยคที่เข้าใจยาก หนังสือเล่มนี้ยังใช้คำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย ดังนั้น คุณต้องเปิดอภิธานศัพท์ซ้ำๆ

แต่หนังสือเล่มนี้ก็น่าสนใจที่จะอ่าน หนังสือที่เบาพอที่จะพกพาไปได้ทุกที่และผู้อ่านทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่าย ทุกคนจำเป็นต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ โดยเฉพาะคนที่ต้องการกำลังใจในชีวิต นอกจากนี้ สัญลักษณ์ยังเป็นกุญแจสำคัญในการสื่อสาร ดังนั้น หากคุณต้องการเข้าใจตัวเองและความสามารถของคุณ และต้องการเปลี่ยนแปลง โปรดอ่านหนังสือเล่มนี้

---

ตัวอย่างการทบทวนหนังสือสารคดีฉบับที่สี่

---

Ghirah อิจฉาอัลลอฮ

หนังสือประจำตัว

ชื่อหนังสือ: กิเราะฮฺ ริษยาเพื่ออัลลอฮฺ

ผู้แต่งหนังสือ: ศ. ดร. ฮัมกา (Buya Hamka)

สำนักพิมพ์หนังสือ: Human Echo

พิมพ์: I

หนังสือหนา: 154 หน้า

ปีที่ออก: 2558
ภาพรวม

Ghirah ไม่เพียงแต่เป็นของชาวมุสลิมเท่านั้นที่มักถูกชาติตะวันตกตราหน้าว่าเป็นพวกคลั่งไคล้ เพราะความมุมานะในการปกป้องตนเอง ครอบครัว และศาสนา อย่างไรก็ตาม การปกป้องมูรูห์หรือเส้นประสาท (ภาษาอาหรับ) ก็เป็นของจิตวิญญาณมนุษย์ทุกคนเช่นกัน โดยไม่คำนึงถึงศาสนา

อันที่จริง แต่ละภูมิภาคหรือแต่ละประเทศมีคำศัพท์เฉพาะสำหรับอ้างถึงกีราห์นี้

กิราห์ยังเป็นของคนที่รักสันติภาพอย่างมหาตมะ คานธี ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความเข้าใจที่กว้างไกลและความเป็นมนุษย์ที่สูงส่ง ยอมทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางน้องชายของเขา เยาวหราล เนห์รู วิยายา ลักษมีบัณฑิต และลูกชายของเขา แรงจูงใจ คานธี ออกจากศาสนา ฮินดู.

Buya Hamka อธิบายว่ามีกิรเราะห์อยู่ 2 ประเภท ได้แก่ สำหรับผู้หญิงและศาสนา ถ้าพี่สาวของคุณถูกคนอื่นรังแก คุณก็ตีคนนั้น นั่นเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าคุณยังมีความหลงใหลอยู่ในตัวคุณ

ถ้าศาสนาของคุณ, ศาสดาของคุณ, และหนังสือของคุณถูกดูหมิ่น, คุณยังคงนิ่งเงียบ, เป็นที่แน่ชัดว่ากีราห์ได้หายไปจากคุณแล้ว.

หากกีราห์หรือสิริ – ในภาษาของชาวบูกิส มากัสซาร์ มันดาร์ และโตราจา – ไม่ได้เป็นของชาวอินโดนีเซียอีกต่อไป ประเทศนี้จะถูกชาวต่างชาติจากทุกทิศทุกทางตกเป็นอาณานิคมอย่างง่ายดายอย่างไม่ต้องสงสัย หากกิราห์หายไปจากหัวใจ จงแทนที่ด้วยสิ่งเดียว นั่นคือผ้าห่อศพ! เพราะการหมดกิเลสก็เท่ากับตาย!
ข้อดีของหนังสือ

ในฐานะนักวิชาการที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยภาพ รศ. ดร. (Buya) Hamka สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านอย่างชาญฉลาดไม่ให้สูญเสียความเคารพในตนเองหากสิ่งที่พวกเขารักถูกดูถูก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาสนา ครอบครัว แม้กระทั่งความนับถือตนเอง

Buya Hamka ยกตัวอย่างที่ชัดเจนซึ่งเป็นข้อเท็จจริงในการถ่ายทอดข้อความของเขาว่าความรักของมนุษย์ทุกคนเริ่มน้อยลง หนังสือเล่มนี้ซึ้งกินใจและน่าอ่านมาก
ขาดหนังสือ

ภูมิหลังของ Buya ในฐานะคน Minang อธิบายไว้ในหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นจึงมีสำนวนภาษาต่างประเทศสำหรับชาวอินโดนีเซียที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อื่นที่จะได้ยิน การเรียบเรียงประโยคและอนุภาคที่ไม่ลงตัวทำให้บางครั้งผู้อ่านต้องอ่านใหม่ทั้งประโยค

---

ตัวอย่างการทบทวนหนังสือที่ไม่ใช่นิยายเล่มที่ห้า

---

คู่มือปฏิบัติในการเล่นรูบิคสำหรับผู้เริ่มต้น

หนังสือประจำตัว

ชื่อหนังสือ: คู่มือปฏิบัติในการเล่นรูบิคสำหรับผู้เริ่มต้น

ผู้แต่งหนังสือ: Wicaksono Adi

สำนักพิมพ์หนังสือ: Gradient Mediatama

พิมพ์: I

หนังสือหนา: 184 หน้า

ปีที่พิมพ์: 2552
ภาพรวม

Rubik เป็นเกมพัซเซิลเชิงกลที่มีรูปร่างเป็นลูกบาศก์ (มีรูปสามเหลี่ยมด้วย) ซึ่งมีสีต่างกันหกสีในแต่ละด้าน รูบิคถูกค้นพบโดยศาสตราจารย์ Erno Rubik ในปี 1974

ศาสตราจารย์ Erno Rubik เป็นสถาปนิกและประติมากรชาวฮังการี รูบิคใช้เวลาไม่นานในการสร้างความรู้สึกทางรสชาติที่เป็นสากล ทุกคนต้องการเล่นรูบิคและมีมัน

ไข้รูบิคแพร่กระจายได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ราวกับมีมนต์เสน่ห์บนก้อนเล็ก ๆ ก้อนนี้ มันมีแนวคิดที่เรียบง่ายและสง่างาม แต่ยากที่จะทำให้เสร็จอย่างน่าประหลาดใจ

การแข่งขันจัดขึ้นทีละคนเพื่อให้ลูกบาศก์รูบิคนี้สมบูรณ์ ในหมู่พวกเขา ได้แก่ United Kingdom Rubik's Cube Championship (ธันวาคม 1981), American Rubik's Cube Championship (พฤศจิกายน 1981), Canada Rubik's Cube Championship (มีนาคม 1982) เป็นต้น

จุดสุดยอดคือในปี 1982 ในเดือนมิถุนายน การแข่งขันรูบิคของโลกเป็นครั้งแรกที่บูดาเปสต์เป็นครั้งแรก

แชมป์ตกเป็นของนักเรียนจากเวียดนามอายุเพียง 16 ปี ทำสถิติไว้เพียง 22.95 วินาที

ความสนใจในเกมรูบิคเริ่มจางหายไปในปี 1990 หลายคนรู้สึกหงุดหงิดเกินไปเมื่อพยายามแก้ไข แต่ก็ไม่เป็นผล

บางคนสนใจที่จะมีเครื่องเล่นเกมอิเล็กทรอนิกส์ในเวลานั้นมากกว่า อย่างไรก็ตาม มีการบันทึกว่าจนถึงทุกวันนี้ขายรูบิคไปแล้วกว่า 30 ล้านชิ้น ทำให้เกมนี้เป็นเกมพัซเซิลที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

จิตวิญญาณของรูบิคถูกค้นพบอีกครั้งในช่วงปี 2000 เมื่ออินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้น มีการเผยแพร่คำแนะนำวิธีการแก้กันอย่างแพร่หลายทางอินเทอร์เน็ต ดังนั้น โรครูบิคฟีเวอร์จึงระบาดไปทั่วโลกอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง

ในปี 2546 เมื่อการแข่งขันรูบิคชิงแชมป์โลกจัดขึ้นอีกครั้งในแคนาดา รูบิคขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง

รูบิคถูกมองว่าเป็นเกมเชิงบวก ฝึกความจำ ทักษะการเคลื่อนไหว และกระตุ้นให้ผู้เล่นสร้างชุมชนและแข่งขันในลักษณะที่ดีต่อสุขภาพ
ข้อดีของหนังสือ

หนังสือ Tips & Tricks for Good at Playing Rubik เล่มนี้มีรูปภาพจำนวนมากเพื่อให้เป็นแบบโต้ตอบและง่ายต่อการทำความเข้าใจสำหรับผู้อ่าน นอกจากนี้คำอธิบายยังชัดเจน ละเอียด และยังมีดรรชนีคำศัพท์ที่เข้าใจยากอีกด้วย
ขาดหนังสือ

สำหรับคนที่เพิ่งเรียนรูบิค จำเป็นต้องมีดัชนี/คำศัพท์รูบิคเพิ่มเติม และในหนังสือเล่มนี้ยังมีคำศัพท์ที่เข้าใจยากแต่ไม่มีอยู่ในดัชนี/อภิธานศัพท์

ดังนั้นการทบทวนจาก เกี่ยวกับ ความรู้.co.id เกี่ยวกับ ตัวอย่างการวิจารณ์หนังสือที่ไม่ใช่นิยาย, หวังว่าจะสามารถเพิ่มความเข้าใจและความรู้ของคุณ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมและอย่าลืมอ่านบทความอื่นๆ